ในการเปิดสถานะการซื้อในคู่สกุลเงินยูโรและดอลลาร์สหรัฐ (EUR/USD) คุณจำเป็นต้อง:

เมื่อวานนี้มีเพียงสัญญาณเดียวที่จะขายเงินยูโร มาลองดูที่กราฟระยะเวลา 5 นาทีและหาว่าเกิดอะไรขึ้น ฉันมีการคาดการณ์ตอนเช้าว่าควรดูที่ระดับ 1.1333 และแนะนำให้คุณตัดสินใจในการเข้าสู่ตลาด เทียบกับแนวโน้มของการขาดสถิติพื้นฐานในครึ่งแรกของวันและความผันผวนของตลาดต่ำก่อนวันหยุดปีใหม่ เทรดเดอร์ยังไม่ถึงระดับที่กล่าวถึงข้างต้น ดังนั้นไม่มีสัญญาณให้เข้าสู่ตลาด เทรดเดอร์พยายามหลายครั้งที่จะขึ้นเหนือ 1.1333 แต่ทั้งหมดจบลงด้วยความล้มเหลวในช่วงเซสชั่นของสหรัฐ ซึ่งทำให้เกิดสัญญาณที่จะขายเงินยูโร จึงเป็นผลให้ทั้งคู่สกุลเงินนี้ลดลง 40 จุดสู่พื้นที่แนวรับที่ 1.1291

รายงาน The Commitment of Traders (COT) สำหรับวันที่ 21 เดือนธันวาคมเปิดเผยว่าทั้งสถานะการขายและซื้อเพิ่มขึ้น แต่สถานะการซื้อนั้นลดลงเล็กน้อยซึ่งทำให้เกิดการลดมูลค่าเดลต้าเชิงลบ ข้อมูลนี้จะนำไปพิจารณากับการประชุมล่าสุดของธนาคารกลางสหรัฐและธนาคารกลางยุโรป อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาจากการจัดตำแหน่งของกำลังด้วยแล้ว ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปมากนัก ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะได้รับการยืนยันตามกำหนดการ ปัญหามากมายในระบบเศรษฐกิจของยูโรโซนและสหรัฐยังคงเหมือนเดิมเนื่องจากไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ Omicron ซึ่งไม่ปล่อยให้ตัวแทนของธนาคารกลางอยู่อย่างสบายใจ เป็นไปได้ว่านโยบายการเงินเพิ่มเติมของ เฟดและธนาคารกลางแห่งยุโรปจะขึ้นอยู่กับว่าสถานการณ์ของเชื้อไวรัสโคโรน่าจะพัฒนาอย่างไรหลังปีใหม่ รายงานแสดงให้เห็นว่าผู้ซื้อสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง และเรากำลังพูดถึงเงินยูโรที่ยังไม่รีบเร่งที่จะสร้างสถานะการซื้อแม้หลังจากการแถลงการณ์ล่าสุดโดยธนาคารกลางแห่งยุโรปว่ามีแผนจะดำเนินโครงการซื้อพันธบัตรฉุกเฉินให้เสร็จสมบูรณ์โดยเร็วที่สุดในรอบเดือนมีนาคม ในทางกลับกันค่าเงินดอลลาร์สหรัฐก็ได้รับแรงหนุนด้วยเช่นกันนั้นคือ เฟดกำลังวางแผนที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยโดยเร็วที่สุดในฤดูใบไม้ผลิหน้า ซึ่งทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐน่าดึงดูดยิ่งขึ้น รายงาน COT ระบุว่าตำแหน่งยาวการซื้อไม่ใช่เชิงพาณิชย์ได้เพิ่มขึ้นจาก 189,530 ไปเป็น 196,595 ขณะที่ตำแหน่งการขายที่ไม่ใช่เชิงพาณิชย์เพิ่มขึ้นจาก 201,409 ไปเป็น 206,757 สิ่งนี่แสดงให้เห็นว่าเทรดเดอร์จะยังคงต่อสู้เพื่อทิศทางต่อไปอย่างแข็งขัน ตลาดช่วงสุดสัปดาห์พบว่าสถานะสุทธิที่ไม่ใช่เชิงพาณิชย์มีมูลค่าติดลบจาก -11,879 ไปเป็น -10,162 ราคาปิดรายสัปดาห์ตามช่องแนวนอนยังคงไม่เปลี่ยนแปลง - 1.1277 เมื่อเทียบกับ 1.1283 ในสัปดาห์ก่อนหน้า

ภาพรวมทางเทคนิคมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเมื่อวาน แม้ว่าการซื้อขายจะดำเนินต่อไปภายในช่องทางแนวนอน แต่ขณะนี้หมีก็ควบคุมตลาดได้มากกว่าเมื่อวานนี้ ไม่มีสถิติสำคัญสำหรับเขตยูโรในครึ่งแรกของรอบวัน ซึ่งจะช่วยให้กระทงยูโรกลับสู่ตลาด รายงานเกี่ยวกับปริมาณการให้กู้ยืมแก่ภาคเอกชนในยูโรโซนและการเปลี่ยนแปลงในปริมาณเงินรวมแบบ M3 ไม่น่าจะส่งผลกระทบร้ายแรงต่ออารมณ์ของผู้เข้าร่วมตลาด ดังนั้นพวกเขาจึงสามารถมองข้ามไปได้ ในกรณีที่ค่าเงินยูโรร่วงลงในครึ่งแรกของรอบวัน โดยทำให้เกิด false breakout ที่ระดับ 1.1291 โดยการเปรียบเทียบกับเมื่อวานก็จะทำให้เกิดการสร้างจุดเริ่มต้นที่ดีในสถานะการซื้อ แต่นอกเหนือจากนี้การเคลื่อนไหวขาขึ้นที่แข็งขันของคู่สกุลเงินก็เป็นสิ่งจำเป็นด้วยเช่นกัน หากกระทิงไม่สามารถเสนออะไรได้เมื่อทดสอบกับ 1.1291 ถือเป็นการดีกว่าที่จะไม่เร่งรีบใช้สถานะการซื้อ การเคลื่อนตัวผ่านขอบล่างของช่องอาจทำให้เกิดการขายออกในสกุลเงินยูโรที่มากขึ้น ในกรณีนี้เองฉันแนะนำให้คุณซื้อคู่สกุลเงินยูโรและดอลลาร์สหรัฐ (EUR/USD) หลังจากอัปเดตแนวรับถัดไปที่ 1.1265 จากนั้นก็จะมีการสร้าง false breakout ส่วนนี้ เป็นไปได้ที่จะเปิดสถานะการซื้อทันทีเมื่อดีดตัวจากจุดต่ำสุดที่ประมาณ 1.1246 โดยใช้งานการปรับฐานขึ้นใน 15-20 จุดภายในวัน งานที่สำคัญเท่าเทียมกันสำหรับตลาดกระทิงในเงินยูโรคือการกลับสู่การควบคุมของจุดกึ่งกลางของช่องสัญญาณแนวนอนที่ 1.1313 ซึ่งอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ที่เล่นในฝั่งหมี การทะลุตัวผ่านและการรวมตัวเหนือช่วงนี้จะทำให้เกิดความต้องการความเสี่ยงได้อย่างแน่นอน ซึ่งจะสร้างจุดเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยมสำหรับสถานะการซื้อในคู่สกุลเงินยูโรและดอลลาร์สหรัฐ (EUR/USD) เพื่อปรับขอบบนของช่องที่ 1.1333 ซึ่งไม่สามารถทะลุผ่านได้เมื่อวานนี้ การเคลื่อนตัวผ่านช่วงนี้อาจส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อทิศทางของคู่สกุลเงินยูโรและดอลลาร์สหรัฐ (EUR/USD) ดังนั้นควรระมัดระวังที่ระดับนี้ การทะลุตัวผ่านและการทดสอบด้านล่างที่ระดับ 1.1333 จะทำให้เห็นการเพิ่มขึ้นครั้งใหญ่กว่าเดิมสู่ระดับสูงสุดที่ 1.1358 และ 1.1381 ระดับ 1.1415 เป็นเป้าหมายที่อยู่ไกลกว่านั้น ซึ่งฉันขอแนะนำให้ทำกำไร

ในการเปิดสถานะการขายในคู่สกุลเงินยูโรและดอลลาร์สหรัฐ คุณจำเป็นต้อง:

หมีอยู่ในการควบคุมของตลาดและความจริงที่ว่าพวกเขาไม่ปล่อยให้คู่สกุลเงินนี้เพิ่มขึ้นเหนือ 1.1333 เมื่อวานนี้บ่งชี้ว่าผลตอบแทนของดอกเบี้ยในสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างค่อยเป็นค่อยไปเมื่อสิ้นปี สถานการณ์ที่ดีที่สุดสำหรับการขายเงินยูโรในครึ่งแรกของวันนี้คือการทดสอบที่ระดับ 1.1313 การสร้าง false breakout ขึ้นมานั้นจะทำให้เกิดจุดเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยมในสถานะการขายโดยมีโอกาสที่คู่สกุลเงินยูโรและดอลลาร์สหรัฐ (EUR/USD) จะทรุดตัวลงซ้ำแล้วซ้ำเล่าไปยังพื้นที่แนวรับที่ 1.1291 ความเคลื่อนตัวผ่านและการทดสอบย้อนกลับจากจุดต่ำขึ้นไปยังระดับนี้ พร้อมด้วยข้อมูลที่อ่อนแอสำหรับยูโรโซนทำให้เกิดสัญญาณเพิ่มเติมเพื่อเข้าสู่ตลาด ซึ่งจะผลักดันให้คู่สกุลเงินไปที่ระดับต่ำสุดที่ 1.1265 และเปิดเส้นทางตรงไปที่ 1.1246 ระดับ 1.1224 เป็นเป้าหมายที่อยู่ไกลกว่านั้น ซึ่งฉันแนะนำให้ทำกำไร หากคู่สกุลเงินฟื้นตัวในช่วงเซสชั่นยุโรปและตลาดหมีไม่ทำงานที่ระดับ 1.1313 สถานการณ์ที่เหมาะสมที่สุดคือการขายเมื่อ false breakout ก่อตัวขึ้นในบริเวณขอบด้านบนของช่องแนวนอน 1.1333 คล้ายกับเมื่อวาน การขายคู่สกุลเงินยูโรและดอลลาร์สหรัฐ (EUR/USD) ทันทีอาจเกิดจากจุดยอดที่ระดับ 1.1358 และ 1.1381 โดยนับการปรับฐานลงที่ 15-20 จุด

สัญญาณบ่งชี้:

การซื้อขายดำเนินการต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 30 และ 50 ซึ่งบ่งบอกถึงการก่อตัวของแรงกดดันต่อเงินยูโร

ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่

หมายเหตุ: ผู้เขียนพิจารณาช่วงเวลาและราคาของเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ในแผนภูมิรายชั่วโมงของ H1 และไม่เหมือนกับคำจำกัดความทั่วไปของเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่รายวันแบบคลาสสิกในแผนภูมิ D1 รอบประจำวัน

Bollinger Bands

การทะลุผ่านขอบด้านบนของตัวบ่งชี้ในพื้นที่ 1.1330 จะทำให้เงินยูโรเพิ่มขึ้น การทะลุตัวผ่านขอบล่างของตัวบ่งชี้ในพื้นที่ 1.1290 จะเพิ่มแรงกดดันสำหรับคู่สกุลเงินนี้

คำอธิบายของตัวชี้วัด

• ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่กำหนดแนวโน้มปัจจุบันโดยทำให้ความผันผวนและสัญญาณรบกวนลดลง) ช่วง 50 เป็นพื้นที่สีเหลืองบนแผนภูมิ
• ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ กำหนดแนวโน้มปัจจุบันโดยทำให้ความผันผวนและสัญญาณรบกวนลดลง) ช่วงเวลา 30. เป็นพื้นที่สีเขียวบนแผนภูมิ
• ตัวบ่งชี้ MACD (การบรรจบกันของค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่/ความแตกต่าง — การบรรจบกัน/ความแตกต่างของค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่) ระยะเวลา Quick EMA 12 ส่วนระยะเวลา Slow EMA อยู่ที่ 26 ระยะเวลา SMA คือ 9
• Bollinger Bands (Bollinger Bands). ระยะเวลา 20
• เทรดเดอร์เก็งกำไรที่ไม่ใช่เชิงพาณิชย์ เช่น ผู้ค้ารายย่อย กองทุนป้องกันความเสี่ยงและสถาบันขนาดใหญ่ที่ใช้ตลาดซื้อขายล่วงหน้าเพื่อวัตถุประสงค์ในการเก็งกำไรและตรงตามข้อกำหนดบางประการ
• สถานะการซื้อที่ไม่ใช่เชิงพาณิชย์แสดงถึงการเปิดสถานะสถานะการซื้อทั้งหมดของเทรดเดอร์ที่ไม่ใช่เชิงพาณิชย์
• สถานะการขายที่ไม่ใช่เชิงพาณิชย์แสดงถึงสถานะการขาย ที่เปิดอยู่ทั้งหมดของเทรดเดอร์ที่ไม่ใช่เชิงพาณิชย์
• สถานะสุทธิที่ไม่ใช่เชิงพาณิชย์ทั้งหมดคือความต่างระหว่างสถานะการขายและซื้อของเทรดเดอร์ที่ไม่ใช่เชิงพาณิชย์